ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน - โรคเบาหวาน
อ่าน 403 ครั้ง 21/Mar/23
(22).jpg)
วิธีดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเป็น "เบาหวาน"
- เบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง ต้องใช้เวลาการดูแลสุขภาพไปตลอดชีวิต (ในการใช้ยาแผนปัจจุบัน) หากไม่ได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้องก็อาจมีอันตรายจากโรคแทรกซ้อนได้มาก
- ผู้ที่รับประทานยาหรือฉีดยาเบาหวานอยู่ บางครั้งอาจเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาการได้แก่ ใจสั่น หน้ามืด ตาลาย ตัวเย็น เหงื่อออก ถ้าเป็นมากอาจเป็นลม หมดสติ และอาจจะชักได้ ควรจะต้องพก น้ำตาลหรือของหวานติดตัวไว้ ถ้ารู้สึกมีอาการก็ให้รีบรับประทาน แล้วทบทวนดูสาเหตุว่าเกิดอาการได้อย่างไร เช่น กินอาหารน้อยไปหรือไม่ ออกกำลังมากเกินไปหรือไม่ กินหรือฉีดยาเบาหวานเกินขนาดหรือไม่ แล้วควบคุมทุกอย่างให้เหมาะ สำหรับผู้ที่มักกินอาหารผิดเวลาก็อาจเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลาทุกมื้อ
- ผู้ป่วยควรควบคุมอาหารที่มีผลต่อโรค ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มรสหวาน ผลไม้หวาน เหล้าเบียร์ ลดอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน หันไปกินอาหารพวกโปรตีน เนื้อแดง ไข่ นม ถั่ว รวมทั้งเพิ่มผักและผลไม้ที่ไม่หวานจัดให้มากขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรหักโหม เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ รำมวยจีน เล่นโยคะ กายบริหาร เป็นต้น
- การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย มีความสำคัญมาก ในรายที่เป็นไม่มาก ถ้าปฏิบัติในเรื่องเหล่านี้ได้ดี อาจหายจากเบาหวานได้โดยไม่ต้องพึ่งยา
- เลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัว ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคแทรกซ้อนต่างๆ
- หมั่นดูแลเท้าเป็นพิเศษ ระวังอย่าให้เกิดบาดแผลหรือการอักเสบ เพราะอาจลุกลามจนกลายเป็นแผลเน่าจนต้องตัดนิ้วหรือขาทิ้ง ควรล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่ เช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตรงซอกเท้า อย่าถูแรงๆ เวลาตัดเล็บเท้า ควรตัดออกตรงๆ อย่าตัดโค้งหรือตัดถูกเนื้อ อย่าเดินเท้าเปล่า ระวังเหยียบถูกของมีคม หนาม หรือของร้อน อย่าสวมรองเท้าคับไป หรือใส่ถุงเท้ารัดแน่นเกินไป ถ้าเป็นหูดหรือตาปลาที่เท้า ควรให้แพทย์ดูแล อย่าแกะหรือตัดออกเอง ถ้ามีตุ่มพอง มีบาดแผล หรือการอักเสบที่เท้าควรรีบไปพบแพทย์
- หมั่นตรวจปัสสาวะด้วยตัวเอง และตรวจเลือดที่โรงพยาบาลเป็นประจำ เพราะเป็นวิธีที่บอกผลการรักษาได้แน่นอนกว่าการสังเกตจากอาการเพียงอย่างเดียว
- ควรมีบัตรประจำตัวที่เขียนข้อความว่าเป็นโรคเบาหวาน พร้อมกับบอกชื่อยาที่รักษาพกติดกระเป๋าไว้ หากบังเอิญเป็นลมหมดสติ ทางโรงพยาบาลจะได้ทราบประวัติการเจ็บป่วยและให้การดูแลได้ทันท่วงที
